เปิดซิง น้องสาวเมีย ตอนเมียท้องแก่

เรื่องเสียว เปิดซิง น้องสาวเมีย ตอนเมียท้องแก่

ผมแต่งงานเมื่อตอนอายุ 24 ปี ภรรยาของผมเป็นคนสวย น่ารัก เรียบร้อย อายุเท่ากันกับผม เมื่อแต่ง
งานกันเราก็แยกจากครอบครัวเดิมออกมาอยู่ที่เรือนหอซึ่งทางพ่อแม่ผมจัดเตรียมไว้ให้ แรกๆ เราก็อาศัยอยู่กันสองคนผัวเมีย แม่ยายของผมท่านกลัวว่าลูกสาวท่านจะเหงา ท่านเลยนำลูกสาวของน้องสาวของท่านให้มาอยู่เป็นเพื่อนกับพวกเราด้วย จริงๆแล้วก็คือลูกพี่ลูกน้องของเมียผมหล่ะครับ หรือจะให้เรียกง่ายๆ ก็น้องเมียครับ น้องเค้าชื่อว่า น้องเค๊ก อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 น้องเค๊ก เป็นเด็กสาวที่โตกว่าอายุจริง รูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างอวบ ผิวสีน้ำผึ้ง ตาคม หน้าเข้ม ผมดำยาวสลวย ช่างเจรจา บุคลิกลักษณะของน้องเค๊กต่างจากหญิง ภรรยาของผม ซึ่งเป็นคนขรึม ผิวขาวอมชมพู หวานแบบผู้หญิงไทยโบราณตรงกับรสนิยมของผม ผมรักภรรยาของผมมาก ไม่เคยคิดจะวอแวกับผู้หญิงอื่นคนไหนอีก ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเธอ จนกระทั่งผมมีลูกสาวคนแรก เราอยู่ด้วยกันมานานเข้า ก็สนิทสนมใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ น้องเค๊กมักจะเข้ามาเคล้าเคลียนัวเนียกับผมแบบเดียวกับที่ลูกเล็กๆ ของผมปฏิบัติต่อผม แม้ต่อหน้าพี่สาวของเธอแต่เราก็ไม่คิดอะไรเกินเลย บางครั้งเมื่อมีคนนอกอยู่ด้วย ผมก็จะบอกน้องเค๊กว่า” อย่าทำอย่างนั้น คนอื่นดูแล้วมันจะไม่ดีกับทั้งตัวน้องเค๊กและตัวผม ” น้องเค๊กก็จะทำท่าเง้างอนว่า” ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราพี่น้องกัน… ”เฮ้อ…ผมล่ะอ่อนใจ เวลาผมนอนเล่นกับลูก

บางครั้งน้องเค๊กก็จะอยู่ใกล้ๆ มองดูผมเล่นปล้ำกับเจ้าตัวน้อยของผม ผมกับลูกจูบกอดฟัดกันไปมา เมื่อผมเหลือบสายตามองไปทางน้องเค๊ก เพราะรู้สึกว่า มีสายตาจ้องมองผมอยู่ก็จะพบดวงตากลมโตแป๋วแหว๋ว ขนตางอนยาวของเธอจับจ้องอยู่เป็นประจำ และถ้าผมเอื้อมมือไปใช้นิ้วชี้กดจมูกของเธอครั้งใด น้องเค๊กก็จะถาโถมเข้ามาจูบแก้มผมทันทีเหมือนกัน ในระยะหลังๆ นานวันเข้า เมื่อเธอจูบผม ผมก็มักจะจูบน้องเค๊กตอบด้วย การกระทำนี้ผมไม่ได้แอบซ่อนเร้นทำ หลายครั้งที่ผมทำต่อหน้าภรรยาและลูก ระยะแรกๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เหมือนที่ผมจูบลูกของผม จนกระทั่งครั้งหนึ่ง เมื่อเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นต่อหน้าภรรยาผู้ใจเย็นของผม เธอก็เอื้อมมือมาหยิกที่ต้นแขนของผม ขณะที่ผมกำลังใช้จมูกจูบไซร้แก้มและคางน้องเค๊ก และน้องเค๊กกำลังหัวเราะเพราะจั๊กกะจี๊หนวดที่กำลังขึ้นใหม่ของผมจนไม่ได้ยินเสียงที่ลูกสาวตัวน้อยของผมที่เรียกจะถามอะไรผม ผมก็ไม่ได้ยินเพราะกำลังสนุกที่แกล้งให้น้องเค๊กขำอยู่ หลังจากนั้น เมื่ออยู่กันตามลำพัง ภรรยาของผมก็พูดกับผมว่า

พี่ต้องจ๊ะ…ต่อไปนี้ พี่ต้องเลิกเล่นฟัดกับยายเค๊กเถิดน่ะ หญิงรู้ว่าพี่ต้องไม่คิดอะไร แต่เด็กมันรุ่นสาวแล้ว….ไม่ดีหรอก”ผมรับคำ และเห็นคล้อยตามภรรยา ขอบใจเธอที่ช่วยรั้งสติผม ต่อจากนั้นมา ก็ดูว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ผมยังคงพูดและเล่นกับน้องเค๊กอยู่ แต่ไม่ได้ประพฤติเยี่ยงที่เคยปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ แม้เมื่อน้องเค๊กจะเข้ามานัวเนียกับผม เพื่อประจบประแจงอยากได้อะไร ผมก็จะไม่สนองตอบเช่นเดียวกัน เมื่อลูกสาวคนแรกของเรามีอายุได้สองขวบเศษ (น้องเค๊กก็อายุประมาณ14ปีย่าง 15) ภรรยาของผมเริ่มตั้งครรภ์ลูกคนที่สองได้ประมาณ 7-8 เดือน เหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันก็อุบัติขึ้น ผมอุ้มลูกสาวที่นอนหลับอยู่ที่พื้นห้องชั้นล่างหน้าทีวีขี้นไปใส่เตียงของเจ้าหล่อน ซุ่งอยู่ในห้องเดียวกับน้องเค๊ก ขณะนั้นเป็นเวลา 4 ทุ่มเศษ ผมเดินผ่านห้องนอนอของผมเห็นภรรยาของผมซึ่งเธอขอตัวขึ้นมานอนอ่านหนังสือก่อนในห้องนอนของเรา นอนหลับไปก่อนแล้ว ผมจึงเดินต่อไปยังห้องของยายหนูลูกสาวผม เปิดประตูเข้าไป แล้ววางยายหนูลงบนเตียง พร้อมคลี่ผ้าห่มคลุมตัวให้ แล้วก็เหลือบไปเห็นน้องเค๊กนั่งฟลุบหลับอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นหน้าตู้เสื้อผ้า มีหนังสือเรียนกองอยู่เต็มไปหมด ผมจึงเดิน
เข้าไปหา เอื้อมมือไปที่ศีรษะ เขย่าเบาๆ“เค๊ก….เค๊ก…. จะหลับจะนอน…..ทำไมมานอนตรงนี้ ไป….ไปนอนบนที่นอนให้เรียบร้อยน่ะ”“หือ….อืม….พี่ต้องเหรอคะ…เค๊กดูหนังสือ…แล้วเลยงีบหลับไปน่ะค่ะ…”น้องเค๊กพูดเสียงงึมงำในลำคอ พร้อมจับมือผม ทำท่าจะเหนี่ยวตัวลุกขึ้น โดยอาศัยผมเป็นหลักยึด“รู้แล้ว….ง่วงก็ไปนอนให้เป็นที่เป็นทางสิ” ผมพูดต่อ“ไปนอนซะ….พี่จะปิดไฟ ปิดประตูห้องให้ พี่พาน้องเอมมานอนแล้ว….ไปสิ”“เหรอคะ….โอเค….เค๊กจะไปนอนล่ะ”เค๊กตอบ พร้อมกับยันตัวลุกขึ้นและล้มพับมาในวงแขนของผม คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วยเถิด…..ร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของผมเป็นเรือนร่างที่อวบอั๋น งดงาม หอมกรุ่นด้วยกลิ่นสาวรุ่นที่เต่งตึง แน่นมือไปทุกสัดส่วน….

“กู๊ดไนท์ค่ะ…..พี่ต้อง”พร้อมกับที่พูดราตรีสวัสดิ์ เจ้าเด็กรุ่นสาวก็เขย่งตัวขึ้นมาจูบปลายคางของผม ริมฝีปากสีชมพูเข้ม อิ่มเต็ม อยู่ห่างจากผมนิดเดียวเอง ตัวของน้องเค๊กบทเบียดกับแผงหน้าอกของผม จนผมรู้สึกถึงเนินเนื้อก้อนเล็กๆ ที่นุ่มๆ หยุ่นๆ สองก้อนที่ประทับมา บน อก“โอเค….กู๊ดไนท์ ”ผมตอบ พร้อมทั้งพยายามเรียกสติ ระงับใจตัวเองอย่างเต็มที่ และขยับตัวจะออกไปจากห้องตามที่พูดไว้แต่แรก แต่….“ไม่อาว…..ไม่อาว……เค๊กไม่ยอม พี่ต้องยังไม่ได้กู๊ดไนท์คิสเค๊กกลับมาเลย….”เสียงหวานใสอ้อนมา พร้อมกับอ้อมแขนรัดตัวผมแน่น อกผมอัดแน่นด้วยดอกบัวตูมสองดอกที่ครัดเคร่งกลิ่นหอมเย้ายวนของเนื้อสาวรุ่นกำลังจะทำให้สติของผมและอะไรๆ ที่ได้รับการพักรบมา 7-8 เดือนมันประทุออกมาขณะที่ผมก้มหน้าลงไปเพื่อจุมพิตที่หน้าผากของเด็กสาวเช่นที่เคยปฏิบัติมา ผมก็ได้กลิ่นที่เย้ายวนใจผมเป็นอย่างมาก นี่น้องเค๊กคงแอบไปเอาน้ำหอมของพี่สาวมาใช้เป็นแน่ ในจังหวะเดียวกันกับที่น้องเค๊กก็เงยหน้าขึ้นมา ผมเห็นปากงามรูปกระจับนั้น เย้ายวนใจจนผมอดมิได้ที่จะบดเบียดริมฝีปากลงไปประทับแนบแน่น ซอนไซ้จนรู้สึกถึงความสั่นสะท้านของร่างน้อยๆในวงแขน ผมบิดจูบจากริมฝีปาก เวียนวนไปที่แก้มนวลปลั่ง อื่มเต็มของวัยสาว ซอกคอ และขบเม้มเบาๆ เลียลิ้นไล้ที่ติ่งหู“อืม….อุ๊ย….พี่ต้องขา…พอเถอะคะ…..เค๊กจั๊กกะจี๊….อุ๊ย….เค๊กจะขาดใจอยู่แล้ว”

เจ้าตัวดีน้องเค๊กครางกระเส่า สองแขนที่โอบตัวผมอยู่ถูกยกมากันหน้าอกผมไว้ ผมกดจูบลงมาปิดปากช่างอ้อนนั้นทันที ในขณะเดียวกัน มือไม้ก็เริ่มเคลื่อนไหวออกสำรวจจุดยุทธศาสตร์ เพื่อพร้อมจะเข้าโจมตีข้าศึกอย่างจริงจัง คู่ต่อสู้ตัวน้อยของผมเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้าน พร้อมทั้งร้องครวญครางอย่างไม่หยุดปากพี่ต้องขา……หยุดเถอะค่ะ….ทำไมทำกับต่ายอย่างนี้….พี่ต้องขา….ปล่อยเค๊กเถอะ….เค๊กขอร้อง..”ผมอุ้มร่างอันยวนใจนั้นไปวางลงบนเตียงนอนขาวสะอาด พร้อมกับทอดตัวลงทาบทับ เพียงแค่แว๊บเดียวเองชุดนอนสีชมพูที่พี่สาวของเธอซื้อมาฝากจากญี่ปุ่นก็ปลิวไปอยู่ปลายเตียง ถัดจากชุดนอนสวยงาม ต่อไปก็เป็นชั้นบนและชั้นล่างตามลำดับ ความรู้สึกของผมนั้น มันเหมือนน้ำที่ถูกขังไว้ในเขื่อนที่เตรียมจะพังทลายกั้น สุดท้ายออกมา ผมเคล้าคลึงเฟ้นฟอนสาวน้อยเหมือนเจ้าแมวตัวร้ายที่กำลังฟัดหนูน้อยเหยื่อที่ไม่มีทางต่อสู้ของมัน

“เค๊กจ๋า….เค๊กรู้ตัวไหมว่า เค๊กช่างน่ารักเหลือเกิน….โอ๊ว….หอมจัง…นุ่มมือพี่ไปหมดเลย เค๊กจ๋า….พี่รักเค๊กจริงๆ”ผมส่งเสียงงึมงำ ในขณะที่ทั้งจมูกและปากวนเวียนอยู่กับบัวตูมสะพรั่งสองดอก ซ้ายที ขวาที สลับไปมาพร้อมทั้งดูดและขบเม้มเบาๆ“อูย….อู๊ย….อู๊ววว…ซี๊ด…พี่ต้องขา….เค๊กเสียวจัง….อู…อู๊ย..”เด็กสาวคนสวยพูดพร้อมสะบัดหน้าไปมา มือที่เกาะกุมไหล่ของผมจิกแน่นจนผมรู้สึกเจ็บนิดๆ ผมไล้สองมือลงทั้งเนินดอกบัวด้านบนและเนินพูนที่ด้านล่างของน้องเค๊ก สลับกันไปมา บดขยี้บางครั้งหนักบ้าง เบาบ้างช่างเต็มไม้เต็มมือดี เนียนแน่นดีจริงๆ ผมแทรกนิ้วชี้เข้าไปสำรวจช่องทางลึกลับที่ไม่เคยมีใครเข้าไปทำการสำรวจมาก่อน ปากทางปิดแน่นสนิท เจ้าของพยายามไขว้ขาปิดกั้นไว้ ผมรู้สึกถึงความนุ่มนิ่ม ละมุนมือแต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อยอยู่ที่นั่น นิ้วของผมแทรกเข้าไปจนได้เกือบครึ่งนิ้ว“โอ๊ย….โอย…อูย….พี่ต้องขา….อย่าทำเค๊ก…เค๊กเจ็บ….โอ๊ย..”

ส่งเสียงพร้อมกับมีอาการสะดุ้งสุดตัว” พี่ต้องขา…..ฮือ…ทำไมพี่ต้อง ทำยังงี้กับเค๊กด้วย …..พี่ต้องรังแกเค๊ก….โอ๊ว….อย่า…ควาน….”ผมหยุดไม่ได้แล้ว จมูก ปาก ก็ซุกไซ้ ดูดดุนเม็ดบัวตัวงามบนทรวงอกอิ่ม มือก็ล้วงควัก แกะเกาบีบบี้ติ่งเนื้อปากทางไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าแรงต้านนั้นค่อยๆลดลง แขนละมุนนั้นเริ่มโอบรัดตัวผมมากขึ้น ผมละจูบบนยอดอกอวบอิ่มขึ้นมาบดจูบที่ริมฝีปากงามนั้นอีกครั้ง“พี่รักเค๊กน่ะจ๊ะ….พี่ไม่ทำให้เค๊กเจ็บหรอก…..ใครจะทำให้คนที่ตัวรักเจ็บได้…จริงไหมจ๊ะที่รัก”พูดพลาง จูบพลาง ล้วงและบี้ติ่งไปพลาง หนักบ้าง เบาบ้าง คลึงเคล้าบ้าง เท่านั้นเจ้าตัวดีน้องเค๊กก็ครางระงมจนผมต้องจูบปิดปากน้อยนั้นไว้ ไม่ให้เสียงลอดไปที่อื่น เมื่อผมเห็นคู่สวาทของผมระเริงใจและเผลอตัวแล้ว ผมจึงขยับตัว ใช้หัวเข่าแยกที่กีดขวางออก คะเน เป้าที่จะยิงแล้วผมก็ส่งกระสุนเหล็กเข้าเป้าหมายทันที” โอ๊ย….โอ๊ย….เค๊กเจ็บ….อย่าค่ะพี่ต้อง…อย่าดันเข้ามา…อูย…เบาๆค่ะ…”ยังมีเสียงปรามออกมาระคนกับเสียงกัดฟันและเสียงคราง ” ฮืม…ฮีอ….ฮู๊ววว….ซี๊ด…..เจ็บจัง..”

ช่องทางที่ผมลงมือบุกเบิกใหม่นี้ แม้จะยังใหม่และคับแคบ แต่ก็แน่นกระชับดีจริงๆ ผมใสหัวบานเข้าไปได้แล้ว ก็หยุดชะงัก รอให้เกิดความคุ้นที่คุ้ทางก่อน เพื่อมิให้ข้าศึกตัวน้อยของผมบอบซ้ำจนเกินไปผมใช้นิ้วบี้บีบติ่งต่อมปากทางเข้าถ้ำมหาสนุกอยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกถึงอาการดูดตุบๆที่หัวช้างทรง ผมจึงเผลอตัวกระแทกเจ้าช้างพลายตัวงามเข้าไปในถ้ำทองอย่างเต็มที่ แนบแน่นสุดด้ามเลย“โอ๊ว….โอ้ย….”น้องเค๊กเองทำท่าจะส่งเสียงร้อง ผมเลยต้องประกบปากจูบ แต่เด็กสาวก็ผวาสุดตัว ทั้งที่อยู่ในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ แต่เราทั้งคู่ก็เหงื่อแตกเต็มตัว “อู๊ย….พี่ต้องขา…เค๊กแน่นไปหมด….แสบด้วย….เอาออกก่อนได้ไหมคะ…”เด็กสาววอนเสียงระริก เนื้อตัวกระตุก สั่นสะท้านไปหมด“เอ้า……ดูสิ ไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย ใครจะใจร้ายทำเค๊กได้”ผมพูดพร้อมโหย่งตัวขึ้นมานิดหนึ่ง ในขณะที่อะไรต่ออะไรก็ยังคาบคากันอยู่แนบแน่น“โอ้โห….ของเค๊กเลือดออกด้วย….มันเข้าไปยังไงคะพี่ต้อง….แล้วของเค๊กจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ…พี่ต้องน่ะใจร้าย…ทำเค๊กแรงๆ”

พูดพร้อมทำตาโต เมื่อเห็นหอกอันเขื่องของผมปักคาอยู่บนเนินนูนที่ขาวสะอาดของเธอยังอยู่ในวัยรุ่น หญ้าอ่อนจึงมีขึ้นเพียงประปราย อ่อนนุ่ม พูดจบก็เบือนหน้าหลบไปด้วยความเสียว สิ้นเสียงเค๊กผมก็เริ่มต้นปรุงขาวซอยให้น้องน้อยได้เอร็ดอร่อยเป็นการตอบแทนน้ำใจอันดีงาม ทีนี้เสียงครางระงมขึ้นทันที” โอ๊ว…โอ๊ย…ฮือ…อูย….เบาๆ ก่อนพี่ต้อง…ช้าๆ หน่อย..เค๊กเสียว….โอ๊ว..”เมื่อใดที่เสียงดังมาก ผมก็จะใช้มือปิดปากเธอไว้ ผมกระแทกหอกเข้าเป้าซ้ายที ขวาที บดขยี้แนบแน่นกับเนินเนื้อบ้าง ไปพร้อมกับจูบปาก จับเต้าเต่งตึงทรวงไปพลางๆ บริเวณขาอ่อนของเด็กสาวกระตุกเป็นริ้วๆเหมือนปลาที่ถูกเชือดเนื้อ จนเนื้อเต้นระริก เมื่อใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง ผมก็ถอดหอกออกจากฝัก น้องเค๊กผวาตัวตามขึ้นมาอีก ผมจึงเสยเข้าไปเต็มๆ อีกครั้ง“อุ๊บ..อึ๊บ..โอ๊ว…โอ๊ย….”

ก่อนที่จะดึงออกมาปลดปล่อยน้ำข้างนอก อยู่บนหน้าท้องขาวสะอาด แล้วจึงฟุบลงกองกอดเมียเด็กของผมไว้แบบทาบทับ พร้อมพรมจูบไปทั่ววงหน้างามผ่อง พร้อมใช้ผ้าห่มเช็ดตัวให้เธอ ซับน้ำเมือกที่เปื้อนบริเวณเนินละมุนอวบอิ่มเต็มของเธอ บนหญ้าอ่อนปากทางเข้าที่บวมเป่งแดงช้ำของเธออย่างแผ่วเบามือที่สุด ในขณะที่มือผมลูบเนินเนื้อที่ผมได้บุกเบิกเป็นคนแรก ผมก็จูบที่ปากและที่หน้าอก เด็กสาวจับมือผมเข้าไปจูบและจับไว้ครู่หนึ่ง” พี่ต้องขา….พี่ต้องไม่น่าทำยังงี้กับเค๊กเลย…เค๊กยังเรียนหนังสืออยู่ มามีอย่างนี้แล้ว เค๊กกลัวท้องค่ะ…”เค๊กตัดพ้อ” พี่ต้องขา….เค๊กกลัวพี่หญิงรู้ พี่ต้อง ต้องช่วยเค๊กนะคะ….พี่ต้องอย่าทิ้งเค๊กนะคะ”

เรานอนกอดเกยกันอยู่นาน น้องเค๊กจึงขยับตัวขอเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ผมเดินตามเข้าไปด้วย สายน้ำจากฝักบัวราดลงบนร่างงามตรงหน้า ทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะผวาเข้าไปกอดรัดร่างเมียเด็กของผมมาแนบอก ผมพยายามจะใช้นิ้วล้วงล้างเนินเนื้อทำความสะอาดให้เธอ แต่เธอขัดขืน ท่าทางที่เอียงอายของเด็กสาวทำให้ผมบอกให้เธอหันหลังแล้วนั่งคุกเข่าคว่ำหน้าลง เธอจะได้ไม่ต้องอายผมและผมเองก็อายเธอเหมือนกัน ในขณะที่น้องเค๊กคุกเข่าคว่ำหน้าลงนั้นเอง พูเนื้อสองก้อนอวบอิ่ม ก็แพลมออกมาทางด้านหลัง ตรงกลางเนินเนื้อนั้นมีรูกลวงโบ๋สีแดงซึ่งเกิดจากการสำรวจของผมเมื่อครู่ยังไม่ปิดสนิทดีนัก ประกอบกับมีรอยคราบเลือดจางๆ มันทำให้ผมต้องรีบจับสะโพกผายงามนั้นยึดไว้ แล้วทะลวงหอกเข้าไปในช่องทางที่ได้เข้าไปมาแล้วก่อนหน้านี้อย่างรีบเร่ง ศีรษะของน้องเค๊กเกือบพุ่งไปชนอ่างอาบน้ำ ดีแต่มือผมยึดสะโพกเธอไว้“อุ๊ย…โอ๊ย…พี่ต้องขา…พี่ต้องจะเอาเค๊กอีกเหรอคะ….ของเค๊กยังเจ็บอยู่เลย…อู๊ว…”

น้องเค๊กร้องบอกในขณะที่ผมกระแทกแบบงัดเสย งัดเสยซ้ำๆ ติดต่อกัน พร้อมกับบีบนมไปด้วย น้องเค๊กเงยหน้าสะบัดศีรษะไปมาตามจังหวะที่ผมกระแทกร่องเนื้อของเธอ“ฮืม…ฮืม…อูย…โอ๊ย….โอ๊วววว…เค๊กเสียวจังเลยค่ะ….แรงอีกนิดค่ะ…พี่ต้องขา…”ผมยิ้มอยู่ในใจเมื่อน้องเค๊กเริ่มหลงไหลในรสข้าวซอยที่ผมลงทุนปรุงให้เธอทาน ผมเริ่มเร่งสปีดซอยถี่ขึ้นและหนักขึ้นจนสุดท้ายผมก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งทุกสิ่งทุกอย่างได้“แรงอย่าง นี้ดีไหมจ๊ะ…..เค๊กจ๋า….โอ๊ว…โอ๊ว…อึ๊บ…อุ๊บ…ฮืม…โอ๊ว ……….เค๊กจ๋าพี่ออกแล้ว…โอ๊ว เค๊กสุดยอดเลยจ๊ะที่รักจ๋า…”

และทันใดนั้นเองเสียงน้องเอม ลูกสาวตัวน้อยของผมก็ดังขึ้น“น้าเค๊ก…น้าเค๊กอยู่หนาย…ฮือ…เอมจากินน้ำ…น้าเค๊ก”ผมเลยโยกสั่งลาน้องเค๊กไปอีกสองสามที ก่อนที่จะพยุงเมียเด็กของผมลุกขึ้น ผมส่งผ้าเช็ดตัวให้น้องเค๊กใช้พันตัว ออกจากห้องน้ำ ไปพบน้องเอม“น้าเค๊กอาบน้ำค่ะน้องเอม คอยเดี๋ยวนะ”น้องเค๊กพูดพร้อมกับเดินท่าแปลกๆ และที่หว่างขาทั้งสองของเธอก็มีคราบน้ำรักของผมหยาดย้อยลงมาเป็นสายออกไปพบลูกสาวผม และรินน้ำจากขวดแช่ในตู้เย็นในห้องใส่แก้วให้ลูกสาวผมดื่ม ผมรอจนลูกสาวตัวน้อยของผมหลับสนิทแล้ว จึงออกจากห้องน้ำมานอนปลอบน้องเค๊กที่บ่นแต่เจ็บในท้องน้อยและเจ็บที่นั่นของเธอ ปลอบใจเธอจนเธอหลับไป ไม่ต้องกลัวจะมีท้องแล้ว

ผมก็ย่องกลับไปนอนห้องของผม ภรรยาที่น่ารักของผมยังนอนหลับ หลังจากคืนนั้นเป็นต้นมา ผมก็พยายามที่จะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนั้นอีก แต่เนื่องจากความอวบอัดผสมความน่ารัก ออดอ้อน ช่างเอาใจของน้องเค๊ก มันจึงทำให้ผมไม่สามารถยับยั้งสติไว้ได้ ผมจึงต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านที่ดีคอยมั่นลุกขึ้นไปดูลูกสาวตอนดึกๆ ว่านอนหลับฝันดีหรือเปล่า ส่วนภรรยาผมเธอก็ไม่สงสัยอะไรแต่กลับดีใจเสียอีกที่ผมช่วยเธอดูแลลูกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน สำหรับน้องเค๊กก็ทำตัวเป็นเมียเด็กที่ว่านอนสอนง่ายของผม วันไหนผมไม่ไปหา เธอก็จะมาเคาะที่ประตูห้องนอนแล้วบอกว่าน้องร้องไม่ยอมหยุดเลยค่ะ ผมเลยต้องบอกภรรยาผมว่าเดี๋ยวผมไปดูลูกเอง คุณนอนพักผ่อนเถอะ