banner

เพื่อนสนิท หรือ คนที่รู้ใจ

เรื่องเสียว เพื่อนสนิท หรือ คนที่รู้ใจ

ผมเป็นผู้ชายคนนึงที่ค่อนค่างจะชอบเรื่องเซ็กส์ เวลาเห็นภาพโป๊ก้อจะเกิดอารมณ์ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะไปมีเซ็กส์กะใครจิงๆ ผมมีผู้หญิงสาวสวยที่สนิทกันมาก 2 คน ตั้งแต่มัธยมต้น จนจบ ม.ปลาย ถ้าต้องเรียกความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเพื่อนสาวสองคนนี้ว่า “แฟน” ก็คงจะไม่ได้ หรือจะให้มากกว่านั้น ก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ประการแรกคือ ต้องมีแค่คนเดียว ชายหนึ่งหญิงหนึ่งเท่านั้น ประการที่สอง หากมากกว่าหนึ่งคู่ แล้วเรียกว่าแฟนหรือมากกว่า แล้วอยู่ด้วยกันได้อย่างปกติสุข อย่างนี้ต้องยกนิ้วให้ ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ด้วยที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่มัธยมต้น จนจบ ม.ปลายแล้ว ก็ยังคบหาสมาคมกันอยู่ เน้นหลักกันอยู่ที่เราสามคน ไม่รู้ชาติก่อนทำบุญหรือกินอะไรด้วยกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงติดหนึบกันเป็นตังเม อย่างนี้ ที่สมควรเรียก ก็ควรเรียกว่า “เพื่อนสนิท” หรือ “คนที่รู้ใจ” อะไรก็ได้ตามถนัด มีเพื่อนต่างเพศบ้างเหมือนกัน ลองคบกันดู ไม่นานนักก็เลิกลา ทุกวันนี้ ก็ยังช่วยกันมองหาคนที่จะมาเป็นแฟนให้กันและกันอยู่ แต่ก็ต้องอกหักอยู่เรื่อยๆ บ้างก็เป็นแบบรักเขาข้างเดียว ช่างกลุ้มใจจริงๆ เลย พวกเราสามคนเนี่ย คิดจะหา ก็หาไม่มี ไอ้ที่มีก็ดีไม่พอ พวกเราสามคนยังไม่จากกันไปไหน เรียนไหนเรียนด้วย ไปไหนไปกัน ยังไม่รู้เลยว่าชอบอะไร อนาคตตั้งใจไว้แบบไหน ถ้าคนใดคนหนึ่งหันเหไปไหน ก็เฮตามกันไป ไม่ได้คิดอะไร ขอให้ได้แค่ไปด้วยกันสามคนเราเป็นพอ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเพื่อนสาวผมซะมากกว่า ที่เป็นคนตัดสินใจอะไรต่างๆ
แม้กระทั่งจะกินอะไร ผมเองก็ไม่ได้คิด ไม่ต้องตัดสินใจ เพื่อนว่าไง ผมก็อยู่แล้ว เมื่อตกลงใจเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็เข้าด้วยกัน แม้จะต้องจากบ้านจากเมืองมาเรียนห่างไกลก็ตาม ด้วยที่สนิทกันมาก พวกเราสามคนจึงเช่าหอพักอยู่ด้วยกัน ต้องบอกตามตรงจากใจเลยว่า แม้ผมจะไม่ค่อยมีวิญญาณผู้นำเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่ตุ๊ด ไม่ใช่เกย์เด็ดขาด ยังรักและปราถนาถึงเพศหญิงอยู่มิเสื่อมคลาย แม้จะยังไม่ได้มีใครซักคนไว้ให้ชื่นชม ส่วนสองสาวนั้น แรกๆ ก็ดูไม่อะไรหรอก แต่พอชักโตเป็นสาวแล้ว ความอ่อนหวานอ่อนโยนมีติดตัวมาไม่มากนัก คงไว้ด้วยมาดเข้ม ห้าวๆ แต่ก็ไม่ใช่ทอม ไม่ใช่ดี้ จากที่ผมดูและทั้งคู่ ก็เปิดเผยว่ายังตามหาผู้ชาย ตามล่าผู้ชายอยู่เหมือนกัน แค่เทอมแรกกับการเป็นน้องใหม่ ก็เจอทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ที่ต่างดูดีและน่าสนใจเป็นอย่างมาก มองไปทางไหน ก็ล้วนแต่เป็นที่หมายปองทั้งนั้น แต่ได้แต่มองซะส่วนมาก เป็นผู้ชายซะเปล่า ไม่กล้าเข้าไปจีบเอง ต้องอาศัยเพื่อนทั้งสองคอยเป็นแม่สื่อและลุ้นให้เรื่อย โดยข้อแลกเปลี่ยนคือต้องเข้าหาและแนะนำผู้ชายให้ด้วย แต่ก็ยังไม่มีใครสมหวัง และต่างไม่มีใครเลิกล้มความพยายาม ที่ล้วนมาพร้อมกับการเรียนที่พวกเราสามคนไม่ทิ้งเหมือนกัน เพื่อนๆ หรือรุ่นพี่หลายคน ต่างพูดถึงพวกเราสามคน เพราะดูเหมือนแฟนกันมาก ผู้ชายไม่เข้ามาจีบเพื่อนผมสองคน ก็เพราะตรงนี้ด้วย คิดว่าผมเป็นแฟนพวกเธอ คิดว่าพวกเธอมีแฟนแล้ว แล้วผมก็มีแฟนแล้ว ซึ่งก็คือพวกเธอ ไม่ให้คิดได้อย่างไร ผมก็ผู้ชายทั้งแท่ง ไม่ใช่พวกกระตุ้งกระติ้ง แค่ซื่อๆ เท่านั้นเอง
แต่จริงใจนะ มอเตอร์ไซค์ก็เอามาใช้ที่นี่ด้วย เวลาซื้อของไปไหนมาไหนแถวๆ หอพักจะได้สะดวก ต่างขี่กันเป็นทั้งสามคน ถ้าผมต้องขี่ เวลาพวกเธอซ้อนท้าย ยิ่งแบบซ้อนสามนะ แนบสนิทเลย ก็เคยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องหน้าอกโดนหลังผมก็เป็นเรื่องปกติ แม้ตอนนี้ก็ถือว่าของมันชินๆ กันแล้ว เธอทั้งสองคนไม่ได้คิดอะไร เราเคยคุยเรื่องนี้กัน แล้วผมจะไปคิดอะไรล่ะ หรือแม้แต่ผมจะเป็นคนซ้อน หรือบางครั้งผมก็นั่งตรงกลางก็มี สองสาวประกบหน้าประกบหลัง ก็ปกติ แต่เรื่องที่ไม่ปกติก็มี มันเริ่มขึ้นเมื่อมาใช้ชีวิตร่วมกันเนี่ยแหละ แต่ก่อนสนิท เล่นอะไรด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันทุกอย่างก็จริง แต่พอตกเย็นตกดึกก็บ้านใครบ้านมันซะส่วนมาก แต่ตอนนี้แทบจะเหมือนเซเว่นอีเลฟเว่นเลย พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันตลอด จะมีแยกก็ตอนเข้าห้องน้ำแค่นั้นแหละมั้ง แม้จะคุยเรื่องที่ว่าด้วยผู้หญิง ผมก็ยังต้องอยู่คุยด้วยเสมอไป และไม่ลืมที่จะต้องคุยและเล่าเรื่องผู้ชายให้ฟังด้วย แทบจะทุกวันตั้งแต่เช่าหออยู่ด้วยกัน จะคุยแต่เรื่องพวกเนี้ยบ่อยมาก ข้างในมันมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง โตแล้วรู้สึกยังไงกัน เรื่องช่วยตัวเองเค้าทำกันยังไง ไอ้นั่นใหญ่มั้ย ขนขึ้นเยอะรึยัง… เมื่อคุยแต่เรื่องพวกนี้เป็นหลัก เรื่องอยากรู้อยากเห็นก็ตามมา ซึ่งหลังๆ มา พวกเราโดยเฉพาะสองสาวเนี่ยแหละตัวดีนัก ชอบเล่นจับกัน เอามือแตะบ้าง เอามือลูบบ้าง เอาหัวไปซุก เอาหน้าไปดุน นั่งคุยนอนคุยอยู่ดีๆ สองสาวคนนึงก็เอามือมาแตะตรงเป้า ให้ต้องสะดุ้งเรื่อยๆ บ้างเอามือลูบจากเข่าขึ้นไปหาเอว ให้มันผ่านเฉียดๆ ให้เสียวเล่น กระโดดกอดกัน กระโดดทับกัน ก็แกล้งกันนั่นแหละ
แต่จะมีเรื่องแบบเนี้ย นิดๆ หน่อยๆ แทรกมาด้วยเรื่อยๆ จากสนุกปากแค่คำพูด จากแค่หยอกจับแค่ภายนอก เหมือนจะไม่เพียงพอต่อความอยากรู้อยากเห็น ต่างแนะให้เอาออกมาอวดกันดู เพื่อจะได้รู้ ได้เห็น ได้รู้จัก สองสาวให้เหตุผลที่ว่า เรียนรู้จากเพื่อนกันเองดีกว่า ต้องไปเรียนรู้กับคนอื่นและอาจจะต้องโดนทำมิดีมิร้ายได้ หลายครั้งที่พวกเราสามคนจะแลกกันดู แต่ก็มีเรื่องให้ไม่สำเร็จอยู่เรื่อย แต่ครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามเส้นทาง ไม่มีการหักเลี้ยวกลับเส้นทางเก่า ผมเป็นคนอาบน้ำคนสุดท้าย เมื่อออกจากห้องน้ำ หลอดไฟในห้องถูกปิด แสงสว่างจากห้องน้ำส่องให้เห็นสองสาวในชุดผ้าขนหนูกระโจมอกอยู่ สวิทซ์ไฟห้องน้ำถูกสั่งให้ปิดลง แม้ภายนอกยามค่ำคืน จะมีแสงสว่างจากหลอดไฟสาธารณะให้ความสว่างอยู่ แต่ช่องทางของแสงถูกม่านและผ้าผืนใหญ่ปิดบังเอาไว้ ต้องคลำความมืดค่อยๆ เข้าหากลุ่ม โดยอาศัยจากเสียงเอา พวกเราสามคนนั่งล้อมวง มีแต่เสียงหัวเราะและความมืดเท่านั้น มองกันแทบไม่เห็นเลยทีเดียว สองสาวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน มือค่อยๆ ลูบมาตามท่อนขาผม มุ่งตรงเข้าจุดยุทธศาสตร์อย่างช้าๆ ผมถอยเอวไปข้างหลังเล็กน้อย และไม่รอรี ที่จะยื่นมือออกไปที่เพื่อนสาวสองคนนี้บ้าง ช่วงนี้นอกจากความมืดแล้ว ยังมีความเงียบมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย หูผมได้ยินแค่เสียงจังหวะหัวใจเต้นตุ๊บตั๊บ เสียงหายใจของแต่ละคนที่มีจังหวะเข้าออกที่สั้นกว่าปกติ ไอ้หนูผมถูกสัมผัส เมื่อมันแข็งตัวก่อนหน้านี้แล้ว มาพร้อมกันทีเดียวเลยสองมือสองคน เสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอดังขึ้น
ในขณะที่ผมเองไม่ได้เลือกที่จะไปยังตำแหน่งในส่วนล่างตั้งแต่แรก มือทั้งสองข้างของผม ต่างปลดผ้าขนหนูของเพื่อนสาวทั้งสองคนออก แล้วจับสัมผัสที่บริเวณหน้าอก แค่นี้ก็เล่นหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว มือข้างนึง สำหรับเพื่อนสาวหนึ่งคน ไล่มือลงต่ำ ขณะที่อีกมือนึง ยังลูบไล้แค่หน้าท้องเพื่อนสาวอีกคนอยู่ แต่อีกคนลงต่ำเรื่อยจนรู้สึกถึงขนที่เนินใต้ท้องน้อย แล้วความรู้สึกก็เป็นตัวตัดสินใจและสั่งการให้ล้วงลงต่ำกว่านั้น ผมรู้สึกได้ถึงแหล่งธรรมชาติหลังฝนตก มันจะยังคงแฉะอยู่ มือทั้งมือยังกุมเป้าหมายนาผืนน้อยไว้ ขณะที่เจ้าตัวทั้งจับทั้งดึงมือผมออกจากตำแหน่ง แต่ยังตรึงไว้ไม่ถอย ความรู้สึกสั่งการให้อีกมือที่เหลือ เคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายของเพื่อนสาวอีกคน แม้จะสัมผัสเพียงแป๊บเดียว เจ้าตัวก็งอตัวถอยออกไป ก็ยังรับรู้ถึงขนาดที่นาผืนนี้ รับรู้ปริมาณต้นหญ้าที่ขึ้นบริเวณนั้น รับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกที่บอกออกมาในรูปร่างเปียกแฉะ ขณะที่ผมยังคงถูกจับถูกสัมผัสไม่เลิก ผมเอนตัวเข้าหาเพื่อนสาวคนที่ถอยหนี กอดและลูบไล้ด้วยความรู้สึกทะนุถนอม พร้อมมอบให้ด้วยความไว้วางใจ เพื่อนสาวปัดป้องเล็กน้อย เมื่อเห็นผมไม่เลิก จึงกอดและล้วงจับของผมแทน นัวเนียกันจนผมอยู่กลาง ขณะที่เพื่อนสาวประกบซ้ายขวา พวกเราต่างใช้มือลูบไล้กันและกัน จับและสัมผัสของหวงแบบเป็นกันเองมากขึ้น ผมลุกขึ้นเพื่อจะประกบเพื่อนสาวคนใดคนนึง จากที่มีแค่เสียงหัวใจกับเสียงหายใจเท่านั้น เพื่อนสาวคนนึงรีบบอกยั้บยั้งสิ่งที่จะถูกดำเนินต่อไป ขณะที่อีกคนก็เห็นด้วย พร้อมตกลงจะยังไม่เปิดไฟ ต่างคลำหาเสื้อผ้ามานุ่ง ต่างคนต่างนอน ไม่มีใครคุยกับใครเลยทั้งคืน
เพื่อนสาวก็คงนอนไม่หลับเหมือนผม พลิกตัวไปมา ทำไงก็ยังไม่หลับ มันค้างๆ คาๆ ยังไงพิกล รู้สึกเคลิ้มหลับไปก็ประมาณเกือบเช้าน่าจะได้ ตื่นมาก็ไม่เห็นใครแล้ว ผมรีบอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ถึงได้ไปเจอพวกเธออยู่ข้างล่างกัน เมื่อตั้งสติกันได้จึงเริ่มคุยกัน พวกเราต่างไม่เคยในเรื่องพวกนี้ รวมทั้งผมด้วย เมื่อคืนอารมณ์มันพาไปจริงๆ แต่ละคนรับว่าเป็นอย่างนั้น และสัญญาว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง ให้คิดซะว่าไม่มีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น ให้คิดว่าเมื่อคืนเป็นเรื่องที่ฝันไป และพวกเราจะไม่ทำอย่างนี้กันอีก แววตาและคำพูด สามารถให้ความมั่นใจซึ่งกันและกัน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะจึงกลับคืนมาอีกที ก่อนนอน พวกเราอดที่จะพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้กันไม่ได้ ต่างหยิบยกกันมาคุยมาแซวกัน ไม่แซวเปล่า เล่นมือถึงตัวด้วย เหมือนแต่ละคนไม่มีใครทำตามที่พูด ที่สัญญาก็คงพูดไปงั้นๆ ในเมื่อความอยากรู้อยากเห็น และความต้องการทางธรรมชาติมันมีมากกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่มีใครคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ไม่มีใครคิดถึงเรื่องอะไร หลังจากสิ้นสุดคำพูดสุดท้าย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นคำพูดใคร ความเงียบและความเงี่ยนก็เข้ามาหาพวกเราสามคน เรียกว่าจูบเป็นรึเปล่า ไม่มีใครรู้ เค้าจูบกันยังไง ไม่มีใครรู้ แต่พวกเราสามคน ต่างจูบกันและกันด้วยที่อารมณ์เท่านั้นที่เป็นตัวสั่งการให้ทำ แม้ร่องรอยการจูบ จะส่งผลเปียกลามออกไปรอบๆ ปาก ต่างไม่มีใครรังเกียจใคร มิหนำซ้ำยังเข้าจูบกันไม่เลิกลา ขณะที่มือก็ต่างพันละวัน ล้วงกันไป ล้วงกันมา ไม่รู้ล่ะ ใครก็ไม่รู้ ตอนนี้มันอยู่ในตำแหน่งพร้อมที่จะยัดลูกกระสุนเข้ารังเพลิงแล้ว